ประเพณีข้าวสาก
งานบุญข้าวสากหรือข้าวสลาก (สลากภัต) คือ การทำบุญอุทิศส่วนกุสลไปให้กับเปรต ซึ่งงานบุญข้าวสากกับงานบุญข้าวประดับดินในเดือน ๙ จะมีความคล้ายคลึงกัน นั่นคือ เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเปรตและผู้ล่วงลับไปแล้ว มูลเหตุของการเกิดงานบุญข้าวสาก สืบเนื่องมาจากในสมัยพุทธกาล มีชายหนุ่มผู้หนึ่งอาศัยอยู่กับมารดา ส่วนบิดาเสียชีวิตแล้ว เมื่อถึงวัยที่ต้องแต่งงาน มารดาจึงหาผู้หญิงมาให้ชายหนุ่มจึงแต่งงานกับหญิงสาวผู้นั้น แต่อยู่กันมานานก้ไม่มีบุตรสักที มารดาจึงหาภารยาให้ใหม่ พออยู่กินมาไม่นานภารยาน้อยก็ตั้งครรภ์ ภารยาหลวงเกิดอิจฉาจึงคิดวางแผนบอกกับภรรนาน้อยว่าถ้าตั้งครรภ์ภรรยาน้อยต้องบอกนางเป็นคนแรก เมื่อภรรยาน้อยตั้งครรภ์ นางจึงบอกกับภรรยาหลวง ภรรยาหลวงจึงนำยาที่ทำให้แท้งให้ภรรยาน้อยกิน พอภรรยาน้อยตั้งครรภ์ครั้งที่สองภรรยาหลวงก็นำยาแท้งให้กินอีกพอครั้งที่สามภรรยาน้อยไม่บอกภรรยาหลวงแต่หนีไปอาศัยอยู่กับญาติ ภรรยาหลวงจึงตามไปแล้วให้ยากินอีก แต่คราวนี้ไม่แท้งเพราะครรภ์แก่แล้ว แต่ลูกในท้องนอนขวางทำให้บีบหัวใจจนตาย ก่อนที่ภรรยาน้อยจะตายนางได้จองเวรกับภรรยาหลวงว่า ชาติหน้าของให้นางได้เกิดเป็นยักษิณีและให้ได้กินภรรยาหลวงและลูกของภรรยาหลวง
ประเพณีทอดกฐิน
ประเพณีทอดกฐินจะทำในช่วงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน เกี๋ยงเหนือหรือเดือนตุลาคม ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่เหนือ หรือเดือนพฤศจิกายน สมัยโบราณชาวล้านนาไม่นิยมทอดกฐินเนื่องจากว่าจะต้องใช้ปัจจัย (เงิน) ค่อนข้างมาก ผู้ที่จะถวายกฐินได้จะต้องมีฐานะดีและมีความตั้งใจจริง
ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง
ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งเป็นงานบุญของชาวอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดสกลนคร ปฏิบัติกันในช่วงออกพรรษา ระหว่างวันขึ้น ๑๒-๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ มูลเหตุของการทำปราสาทผึ้ง สืบเนื่องมาจากครั้งสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จจำพรรษาบนสวรรค์ ครั้นถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ พระอินทร์จึงนิรมิตบันได ๓ ชนิดขึ้นมา คือ ๑. บันได้แก้วมณี สำหรับพระพุทธเจ้าเสด็จลง ๒. บันไดทองคำ สำหรับเทวดาเสด็จลง ๓. บันไดเงิน สำหรับมหาพรหมเสด็จลง
ประเพณีบุญกฐิน
งานประเพณีบุญกฐิน คือ งานบุญถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ โดยเริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันที่ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ มูลเหตุของการทำบุญกฐินสืบเนื่องมาจากว่า ในสมัยพุทธกาล ภิกษุเมืองปาฐาจำนวน ๓o รูป มีความประสงค์จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดพระเชตวันมหาวิหาร แต่ขณะเดินทางนั้นได้ใกล้วันจำพรรษา ภิกษุเหล่านั้นจึงหยุดจำพรรษาอยู่ที่เมืองสาเกตก่อน ครั้นออกพรรษาภิกษุทั้ง ๓o รูป จึงรีบไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่เนื่องจากระยะทางนั้นไกลและมีฝนตก จึงทำให้ผ้าสบงจีวรเปรอะเปื้อนโคลนเลน พระพุทธเจ้าทรงเห็นความลำบากของภิกษุ
ประเพณีบุญสงกรานต์
ประเพณีบุญสงกรานต์ไทยหรือเทศกาลสงกรานต์ไทย ชาวอีสานจะเรียกว่า “สังขานต์” แปลว่า “สงกรานต์” ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษสันสกฤต แปลว่า ผ่านหรือเคลื่อนย้ายเข้าไป หมายถึงพระอาทิตย์ผ่านหรือเคลื่อนย้ายเข้าไปอีกในจักรราศีหนึ่ง เรียกว่า “สงกรานต์” มูลเหตุของการเกิดบุญสงกรานต์ เนื่องมาจากเรื่องเล่าที่ว่า มีเศรษฐีท่านหนึ่งเป็นผู้มีสมบัติมากแต่ไม่มีบุตร จึงถูกนักเลงสุราผู้อาศัยอยู่ใกล้บ้านและมีบุตร ๒ คน ซึ่งบุตรนั้นมีผิวพรรณผุดผ่องสวยงามเหมือนทอง กล่าวดูถูกว่า “ท่านเศรษฐีผู้มีสมบัติมากแต่ไม่มีบุตร” เมื่อท่านเศรษฐีได้ยินดังนั้นจึงโกรธมาก เศรษฐีจึงไปบวงสรวงกับพระอาทิตย์และพระจันทร์เพื่อขอบุตร แต่ขออยู่นานก็ไม่มีบุตรสักทีจึงได้ไปขอกับพระไทร พระไทรเห็นใจจึงไปบอกพระอินทร์ พระอินทร์จึงประทานลูกให้ ท่านเศรษฐีได้ตั้งชื่อให้ว่า “ธรรมบาลกุมาร” ธรรมบาลกุมารเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดมากจนสามารถเรียนจบวิชาการต่างๆ ได้ไม่ยาก รวมทั้งเข้าใจภาษานกได้ด้วย